ค้นหา

ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

ยอสมุนไพรยอดเยี่ยม

ยอ เป็นต้นไม้ขนาดกลาง ใบเขียวเป็นมันเหมือนใบหูกวาง ยอเป็นต้นไม้ที่คนโบราณทุกบ้านปลูกไว้

เป็นเคล็ด เพื่อที่จะได้รับการสรรเสริญเยินยอ นับว่าเป็นความฉลาดของคนสมัยก่อนอย่างยิ่ง ในการหากลอุบายให้คนปลูกต้นยอไว้กับบ้าน เพราะว่ายอเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่ามากมายทั้งในแง่ของการใช้เป็นอาหาร เป็นยา เป็นสีย้อมผ้าไหมและผ้าฝ้ายชั้นยอด เปลือก ราก เนื้อไม้ ใบ ของยอให้สีเหลืองแกมแดงที่ติดคงทน ในเชิงวัฒนธรรม ยังมีการใช้ใบยอรองก้นหลุมเสาเอก และเสาโทเวลาปลูกบ้าน ใช้ใบยอรองขันพิธีบายศรีสู่ขวัญในงานมงคลต่าง ๆ เป็นต้น

ใบยอจะใช้รองก้นกระทงห่อหมก ห่อหมกใบยอ เป็นอาหารที่ช่างผสมกลมกลืน กลมกล่อม และเข้มข้น แม้เราจะใส่ผักชนิดอื่นลงไปแทน ก็จะไม่ลงตัว หรือทดแทนความอร่อยได้ ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่าเวลาทำห่อหมก ยายจะสั่งให้คนปลาช่อนตัวโต ๆ กับเครื่องแกงและกะทิ ต้องคนจนเข้าเนื้อจริง ๆ ให้ข้นเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันในตอนนั้นคิดแต่ว่าทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงชอบกินอะไรยาก ๆ ดีแท้ แต่พอห่อหมกถูกนึ่งเสร็จสรรพเรียบร้อย กลิ่นจะหอมกรุ่นชวนกิน กลิ่นใบยอจะฟุ้งไปกับกลิ่นเครื่องแกง ในเวลาอีกไม่นานนัก ยายจะมีห่อหมกพุงปลา ที่ใส่กระทงเฉพาะเป็นรางวัลสำหรับหลานตัวจ้อย ที่คนเครื่องแกงจนเจ้าตัวอดคิดไม่ได้ว่า แขนมันน่าจะโตขึ้นเป็นสิบเท่าแล้วกระมัง เดี๋ยวนี้ถ้าใครช่างสังเกตหน่อยจะพบว่า เราจะหากินหาซื้อห่อหมกใบยอได้ยากขึ้นทุกที

ใบยอ นับเป็นอาหารสมุนไพรที่เพียบไปด้วยคุณค่าจริง ๆ ใน ๑๐ มิลลิกรัม มีวิตตามินซี ๗๖ มิลลิกรัม มากกว่ามะนาวถึงสองเท่า แคลเซี่ยม ๓๕๐ มิลลิกรัม มากกว่านมสามเท่า นอกจากนั้นยังมี วิตามินเอ เหล็กและฟอสฟอรัส ในปริมาณสูง
ใบยอจึงเป็นผักที่ควรส่งเสริมให้มีการบริโภคอย่างยิ่ง เพื่อเป็นแหล่งแคลเซี่ยมในสตรีวัยหมดประจำเดือน เป็นแหล่งวิตามินซีที่เพิ่มภูมิคุ้มกัน เพื่อการต้านมะเร็ง เป็นแหล่งวิตามินเอ ป้องกันการตาบอดในเด็ก และยังเป็นแหล่งฟอสฟอรัสและเหล็กที่ดีได้อีกด้วย
โดยทั่วไปไม่นิยมกินใบยอสด ๆ นอกจากจะใช้นึ่งโดยรองก้นห่อหมกรับประทาน ส่วนใบอ่อน ๆ นิยมลวกให้สุกรับประทานเป็นผักจิ้มหรือจะหั่นเป็นฝอย ๆ แกงเผ็ด แกงอ่อม จะมีรสขมอ่อน ๆ ครั้งหนึ่งใบยอจึงถูกจัดให้เป็นผักคู่ครัวคนไทยก็ว่าได้

ในแง่ประโยชน์ทางยาการรับประทานใบยอจะช่วยในการย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย มีบางท่านนำใบยอที่ไม่แก่ไม่อ่อนจนเกินไป หั่นตากแดด บดเป็นผงละลายน้ำร้อน ดื่มครั้งละสองช้อนกาแฟ หรือผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนกินครั้งละสองเม็ด
ส่วนผลของยอหรือลูกยอ ใช้เป็นได้ทั้งอาหารและยาเช่นกัน ผลยอเป็นผักที่มี มีวิตามินซีสูงใกล้เคียงกับมะขามป้อมคือ ๒๐๘ มิลลิกรัมต่อน้ำหนัก ๑๐๐ กรัม ผลอ่อนของยอใช้แกงส้ม แกงเลียง ส่วนผลแก่ใกล้สุก ทางอีสานนิยมนำมาทำส้มตำแทนมะละกอ

ผลของยอมีรสเผ็ดร้อนช่วยขับลมในลำไส้ แก้คลื่นเหียนอาเจียน ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุไฟได้ดีนัก จึงนิยมใช้ทำยารักษาโรคท้องอืดท้องเฟ้ออาหารไม่ย่อย ทั้งผลดิบผลสุก จะนิยมฝานผลแก่จัดเป็นแว่น ๆ ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผงให้ละเอียดละลายน้ำร้อนกินครั้งละ ๒ ช้อนชา หรือผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นลูกกลอนรับประทานครั้ง ๑-๒ เม็ด การใช้ผลลูกยอจะมีสรรพคุณที่แรงกว่าใช้ใบ กินแล้วผายลมสบายท้องดีจริง ๆ แต่ไม่ยักกะมีใครหัวใสทำขายผลสุกของยอก็เป็นยาชั้นยอดในการขับลมและช่วยย่อย คุณยายที่บ้านชอบเก็บลูกยอมาบ่มในไหเกลือ โดยฝังเข้าใปในเกลือ สักวันสองวันลูกยอจะสุก แล้วจะเอามาจิ้มเกลือกิน บางท่านนิยมจิ้มน้ำผึ้งกิน

ยายบอกว่ายอเป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงธาตุแก้ท้องอืด ช่วยระบายท้อง

ยายจะกินลูกยอทั้งเม็ด และยังกำชับว่า ผู้หญิงควรกินลูกยอสุก หรือลูกยอที่แก่จัด เพื่อบำรุงเลือดลม ขับเลือดเสียไม่ให้มีเลือดคั่งค้าง คนโบราณเชื่อว่าถ้าเลือดร้ายออกไปผิวพรรณจะสดใสเปล่งปลั่ง ไม่เป็นสิวฝ้า อารมณ์ดี ลูกยอสุกกินยากมากเพราะกลิ่นจะฉุน ๆ แต่เมื่อกินบ่อย ๆ ก็จะชินไปเอง ส่วนสตรีท่านใด
อยากมีผิวหน้าสดใส แต่ทนกลิ่นลูกยอไม่ได้ ก็อาจจะฝานลูกยอที่แก่จัดแล้ว ตากแห้งบดเป็นผง ชงน้ำ หรือทำเป็นลูกกลอน หรือบรรจุใส่แคปซูล รับประทานก็ได้
ยอจึงเป็นสมุนไพรที่เป็นยาอายุวัฒนะของสังคมไทย เพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งในใบและผล ยังเป็นยาช่วยย่อย บำรุงธาตุไฟ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ อันเป็นปัจจัยแรก ที่จะทำให้ร่างกายเป็นปกติ ไม่เสียสมดุล ทั้งยังช่วยขับประจำเดือนฟอกเลือดสตรีให้งาม ผิวพรรณเปล่งปลั่ง รักษาอาการประจำเดือนไม่ปกติ ได้อีกด้วย

มีลูกยออีกชนิดหนึ่งไม่ใช่พืช เป็นอะไรที่คนชอบรับประทานกันมาก เรียกว่าวันไหนที่ได้รับลูกยอเข้าไปจะรู้สึกไม่หิวข้าวเลย มันอิ่มอกอิ่มใจ คุณค่าของลูกยอชนิดนี้ ถ้าใช้ให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและถูกจังหวะ จะช่วยเยียวยาจิตใจคนและสังคมได้ไม่น้อยทีเดียว แต่ถ้าใครชอบกินลูกยอชนิดนี้มากเกินไป โดยไม่ใช้สติปัญญาพิจารณาก็อาจจะมีพิษ โดยจะมีอาการตัดสินใจผิด ๆ ไม่ค่อยฟังใคร นึกว่าข้าเก่งสุดในปฐพี ซึ่งเป็นอาการของนักการเมืองและผู้นำของไทยส่วนใหญ่จะเป็นกันมาก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Morinda citrifolia Linn.

รายการบล็อกของฉัน

chat love manman

chat love manman1

chat love manman 2

chat love manman 3

chat love manman 4

chat love manman 5

chat love manman6