จากรายงานผลการวิจัยการบริโภคประจำเดือนนี้พบว่า บรรจุภัณฑ์ของชุดสลัดผักและผลไม้ที่วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้านั้นมีปริมาณแบคทีเรียอยู่ในระดับสูง เกินกว่าระดับมาตรฐานที่ระบุไว้
ผู้วิจัยได้ทำการทดลองตรวจสอบสลัดผัก โดยเฉพาะผักสลัดสีเขียวที่บรรจุมาพร้อมทานจำนวนกว่า 200 กล่องจาก 16 ยี่ห้อดังที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วนิวยอร์ก นิวเจอร์ซี และคอนเนกติกัน พบว่ามีเชื้อแบคทีเรียอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง แต่ในการตรวจไม่มีการพบเจอเชื้อแบคทีเรียสามชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร เช่น เชื่อ E. Coli และเชื้อซาโมนาเลีย
เชื้อแบคทีเรียที่ตรวจพบว่าเกินระดับมาตรฐานของการปนเปื้อนก็คือ พวกเชื่อ Coliform ที่มีมากกว่า 39 เปอร์เซนต์ และเชื้อ enterococcus ที่มีกว่า 23 เปอร์เซนต์ เชื่อเหล่านี้สามารถเป็นดัชนีบ่งชี้ความสะอาดและระดับการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆในอาหารและน้ำได้
โดยทั่วไปเชื้อเหล่านี้จะไม่ส่งผลต่อคนที่มีสุขภาพแข็งแรง เนื่องจากร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อสู้กับเชื้อเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายได้ แต่จะมีผลชัดเจนกับผู้ที่ทานเข้าไปและเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอ
ถึงแม้ว่าผักสลัดบรรจุสำเร็จเหล่นี้จะมีขั้นตอนกรรมวิธีที่สะอาด เก็บในที่เย็นระหว่างขนส่ง แต่ความชื้นภายในถุงหรือบรรจุภัณฑ์ก็ส่งผลให้เชื้อเหล่านี้เจริญเติบโตได้ และถ้ายิ่งมีการเก็บในสภาวะอากาศที่อุณหภูมิมากกว่า 40 องศาฟาเรนไฮต์ เชื้อโรคเหล่านี้ก็ยิ่งแพร่และเพิ่มจำนวนมากขึ้น
ณ ตอนนี้คนจะมุ่งสนใจเกี่ยวกับความปลอดภัยและใส่ใจป้องกันการเกิดและแพร่ของเชื้อจุลินทรีย์ไปยังเนื้อสัตว์มากกว่า แต่จากการตรวจสอบผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารพบว่า สาเหตุของการป่วยเกิดจากการทานพวกผักหรือผลไม้ที่ล้างให้สะอาดไม่พอ ก่อนจะรับประทาน ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้ผู้บริโภคต้องล้างผักและผลไม้ทุกครั้งก่อนทานไม่ว่าผักที่ซื้อมาจะระบุข้างบรรจุภัณฑ์ว่าเป็นแบบที่พร้อมทาน ส่วนเนื้อสัตว์ก็ควรล้างให้สะอาดอีกครั้งก่อนนำมาประกอบอาหาร ไม่ว่าจะบรรจุมาในรูปแบบใด
ที่มาhttp://www.physorg.com/news187546432.html
โดยธนัช