วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เรื่องน่ารู้๗สมุนไพรบำรุงผิวหน้า และผิวกาย


คนไทยสมัยโบราณนิยมใช้สมุนไพรมาเป็นเครื่องประทินความงาม จนกระทั่งหลังสงครามโลก ครั้งที่ ๑ เริ่มมีการผลิตเครื่องสำอางเป็นอุตสาหกรรม มีการค้นพบสารสังเคราะห์ รูปแบบต่าง ๆ ของเครื่องสำอางที่หลากหลาย แต่ในปัจจุบันได้มีการนำสารจากธรรมชาติมาใช้เป็นเครื่องสำอาง เพื่อลดอันตรายและอาการแพ้จากสารสังเคราะห์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

โดยสมุนไพรที่นิยมนำมาทำเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางมีอยู่ด้วยกัน ๗ ชนิดคือ
๑. ว่านหางจระเข้ คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผม ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีเครื่องสำอางหลายชนิดที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะบอลิซึม ทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่าช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ นอกจากนี้ ยังสามารถลดความแห้งกร้านและลดความมันของผิวหน้าได้
๒. งา ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ประมาณ ๔๕-๕๔% น้ำมันงามีกลิ่นหอม นำเอาเมล็ดงาสดมาบีบน้ำมันงาออกโดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนังเพื่อบำรุงผิวพรรณให้ผุดผ่อง ช่วยประทินผิวให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน ในงายังมีกรดไขมันลิโนเลอิคซึ่งกรดไขมันนี้จำเป็นต่อความชุ่มชื่นของผิวหนัง เพราะเป็นส่วนประกอบของผนังเซลล์ นักวิทยาศาสตร์หลายท่านกล่าวว่า สารเซซามอลที่มีอยู่ในงานั้นป้องกันมะเร็งได้ และยังทำให้ร่างกายแก่ช้าลงอีกด้วย
๓. แตงกวา จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้านให้หลุดออกไปเพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม ปัจจุบันมีเครื่องสำอางหลายยี่ห้อที่นำแตงกวาเป็นส่วนผสมเนื่องจากภายในผลแตงกวามีสารต่างๆ ที่ล้วนมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้านและช่วยสมานผิว แตงกวายังมีกลิ่นหอมเย็นๆ ชวนให้ชื่นใจ
๔. มะเขือเทศ เป็นพืชที่น่าสนใจชนิดหนึ่ง มะเขือเทศเป็นอาหารจำพวกผัก และนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม นอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยแล้วยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางอาหารมากมาย มะเขือเทศมีประโยชน์ต่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะคนรักสวยรักงามกลัวริ้วรอยเหี่ยวย่น ลองนำมะเขือเทศมาฝานบาง ๆ แล้ววางไว้บนหน้า หรือใช้น้ำมะเขือเทศคั้นสด ๆ ทาตามใบหน้าเชื่อกันว่าจะทำให้ผิวแต่งตึงมีน้ำมีนวลขึ้น
๕. ขมิ้นชัน จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหยซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัวเพื่อให้มีสีเหลืองทองใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิด
๖. น้ำผึ้ง ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิวเป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์สูงและหาง่าย นอกจากนี้ ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผมฮอร์โมนเอสโตรเจนจะช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม
๗. มะขามเปียก มีประวัติการใช้มายาวนานช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อน ๆ ในมะขามจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบันได้มีหญิงไทยจำนวนมากใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่นและนมสดให้เข้ากัน พอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น
หากท่านสนใจสมุนไพรชนิดใดสามารถเลือกหาได้ตามชอบใจ เพราะนอกจากราคาถูกแล้ว ที่สำคัญยังลดอันตรายจากสารสังเคราะห์ได้อีกด้วย--จบ--